รายการตอบโจทย์ ThaiPBS ได้เชิญ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มาตอบคำถาม ปัญหาคาใจแฟนบอล ในหัวข้อ "ดับเครื่องชนฟุตบอลไทย" (1) ซึ่งมีคำถามน่าสนใจดังนี้
ให้คะแนนในการบริหารงานของตัวเองเท่าไหร่ ?
พิธีกร : คุณวรวีย์มองว่าในช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ ดูแล้วย่ำแย่อย่างที่มีการกล่าวอ้างจริงหรือไม่ ?
วรวีร์ มะกูดี : ผมเป็นฝ่ายบริหาร ในเมื่อเรามีฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามหรือตั้งแง่เป็นศัตรูกับผม เขาจะไม่มองจุดดีทั้งนั้น เขาจะมองจุดที่เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดความไม่ประสบความสำเร็จอะไรต่างๆ เรื่องแบบนี้ต้องวิเคราะห์เจาะลึกลงไป จะเอาว่าช่วงไหนหรือเป็นเรื่องอะไร พูดรวมๆ แบบนี้ไม่ได้ จะมาพูดบอกว่าสมาคมฯ ไม่โปร่งใส เรื่องไม่เป็นองค์กรที่มีความบริสุทธิโปร่งใส พูดโดยรวมๆ ไม่ได้ ต้องมาพูดกันว่าเป็นเรื่องอะไร
เพราะผมก็พูดได้คุณเนวิน (ชิดชอบ) ก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออะไรทั้งสิ้น เท่าที่ผ่านๆ มา มีฉายาอะไรต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นเราก็พูดได้ แต่ผมถือว่าผมเป็นสุภาพบุรุษผมไม่พูด เรื่องแบบนี้มารยาทเขาไม่พูดกัน หรือที่อ้างว่ามาช่วยเหลืออะไรผม คนอย่างคุณเนวินถ้าผมไม่ช่วยอะไรเขา เขาคงไม่มาช่วยอะไรผม การอยู่ร่วมกัน การเข้ามาอยู่ในวงการกีฬา มาขอคำแนะนำ มาขอความช่วยเหลืออะไรต่างๆ มันก็เป็นการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์กัน เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้สุภาพบุรุษเขาไม่มาพูดลำเลิบบุญคุณกันครับ ถ้าจะพูดต้องมาพูดกันต่อหน้า มานั่งคุยกันต่อหน้า
ทำไมนักฟุตบอลทีมชาติได้เบี้ยเลี้ยงน้อยมาก เมื่อเทียบกับโค้ชเพียงตำแหน่งเดียว ?
พิธีกร : การที่จ้างโค้ชต่างชาติราคาสูง 34 ล้าน แล้วค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬาฟุตบอล ค่อนข้างเรียกได้ว่าแตกต่างกัน 1 ใน 3 อยากให้คุณวรวีย์ ชี้แจงในจุดนี้
วรวีร์ มะกูดี : ทีมชาติไม่ได้ซ้อมกันทุกวัน เดี๋ยวนี้มีเวลาซ้อมแค่ไม่กี่วัน เพราะฉะนั้นไม่เหมือนสโมสรต้องซ้อมกันตลอดทั้งเดือนแทบไม่มีวันพัก เพราะฉะนั้นตอนนี้ทีมชาติเราให้ความสำคัญกับลีก กับสโมสรอย่างมาก เพราะฉะนั้นเวลาเรียกมาทีมชาติ บางทีก็มีแค่ 3-4 วัน แล้วก็ไปแข่งกัน ไม่ได้เก็บตัวเป็นเดือนๆ เหมือนสมัยก่อน เพราะฉะนั้นเบี้ยเลี้ยงตรงนี้มันก็ไม่สูง (พิธีกร : ก็คือคิดเป็นรายวัน ที่มาเข้าค่ายฝึกซ้อม ?) ถูกต้องครับ เพราะฉะนั้นตัวเลขตรงนี้ก็ออกมาไม่สูง แต่ว่าเราก็มีทั้งโบนัส มีทั้งเงินรางวัลที่ให้เพราะว่าประสบชัยชนะ ก็อีกส่วนหนึ่ง
ถ้าถามเรื่องโค้ช เราก็พยายามอย่างดีที่สุด เราพยายามกลั้นใจเอาโค้ชที่ดีที่สุด แล้วกระเป๋าเรามีขนาดไหน เราก็พยายาม คือผมต้องเรียนอย่างนี้ เรามีโค้ชคนไทย โค้ชคนไทยไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ไปเอาโค้ชต่างชาติ โค้ชต่างชาติไม่ประสบความสำเร็จ เราก็กลับมาเอาโค้ชคนไทย มันก็หมุนเวียนเป็นวัฎจักรอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราคิดว่าเราได้โค้ชที่ดีที่สุด ได้รับคำแนะนำ เคยทำทีมชาติแคมเมอรูน ผ่านเข้าไปในฟุตบอลโลก มีผลงานอะไรต่างๆ มากมาย เราก็คิดว่าโค้ชคนนี้น่าจะมาสร้างประวัติศาสตร์ สร้างความสำเร็จให้กับทีมชาติไทยได้ เราก็จ้างเค้ามา ถึงแม้ว่าจะราคาสูงเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้ใช้เงินของภาครัฐ เราก็ไปหาสปอนเซอร์ ไปพูดจากับบริษัทที่เขามาสนับสนุนเรา ให้มาช่วยดูแลในเรื่องตรงนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องดำเนินการ
แต่ว่าต้องดูอย่างนี้การบริหารจัดการจะดีหรือไม่ ต้องดูว่าเวลาเก็บตัวทีมชาติ เราก็ให้อยู่โรงแรมอย่างดี อาหารก็อาหารของโรงแรม ที่พักก็เป็นระดับมาตรฐานโรงแรม เบี้ยเลี้ยง เงินโบนัส เงินชนะเป็นรายนัด ในส่วนของสมาคมฯ ผมคิดว่าพยายามทำดีที่สุดแล้ว
แต่ว่าสมาคมฟุตบอลฯ เป็นสมาคมใหญ่ มันก็อาจจะมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้น ซึ่งพยายามเอามาโจมตี เรื่องเด็กลืมพาสปอร์ต ผมจะต้องไปตามไล่เก็บพาสปอร์ตของเด็ก ผมเป็นคนคอยคุมนโยบายระดับสูง เราก็จ้างคนที่มาทำงานกับสมาคม บางคนก็มีประสิทธิภาพ บางคนเขาก็มีความบกพร่อง ก็เหมือนองค์กรทั่วๆ ไป เป็นเรื่องความผิดของบุคคลมันก็เกิดขึ้นได้ทุกองค์กร บริษัทใหญ่ๆ กระทรวง ทบวง กรม หรือแม้กระทั่งองค์กรอย่างทีวีของเรามันก็มีเกิดขึ้นได้ เล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าก็เอามาโจมตีผม
ถ้านักฟุตบอลอดๆ อยากๆ ไม่ได้มีการดูแลเอาใจใส่ ที่พัก อาหารการกิน ไม่ได้มีความสมบูรณ์ อย่างนี้ต้องโทษผม ไม่มีเงินเบี้ยเลี้ยง ไม่มีเงินโบนัส ไม่มีเงินจูงใจเวลาชนะ ต้องโทษผม
ลีกในประเทศเฟื่องฟู แต่ทีมชาติดร๊อปลง ?
พิธีกร : มันอาจเป็นการตั้งคำถามอีกคำถามว่า ขณะที่ลีกในประเทศกำลังเฟื่องฟู แต่ว่าการไปเล่นกับต่างชาติของเรามันเหมือนจะดร๊อปลง
วรวีร์ มะกูดี : อย่างในประเทศอังกฤษ ทีมชาติก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่ว่าลีกเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีมูลค่าสูงมากอันดับหนึ่งของโลก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรากำลังพัฒนาก้าวไกลไปในส่วนหนึ่งของการแข่งขันลีกในบ้านเรา ทีมชาติอาจได้รับผลกระทบบ้างเพราะว่าเราไม่สามารถเอาตัวผู้เล่นจากทีมสโมสรมาเก็บเนื้อเก็บตัว มาเตรียมทีมหรือมาทำทีมได้อย่างเต็มที่ แต่ว่าตอนนี้พอเด็กเริ่มเข้าไปสู่ระบบอาชีพอย่างเต็มรูปแบบแล้ว หรือตัวเขามีความเป็นมืออาชีพเต็มที่แล้ว แค่ 3-4 วันเรียกมา แล้วใช้โค้ชที่มีความรู้ความเข้าใจในการผสมผสานเด็กดีๆ ผมว่าอันนี้ก็สามารถที่จะทำ ก็เป็นสากลปฏิบัติกัน ว่าตอนนี้เราไม่สามารถที่จะเก็บตัวยาวๆ กันได้ เพราะลีกทั่วโลกก็มีความสำคัญ
เพราะฉะนั้นก็ตอบคำถามที่ว่า ระยะแรกในการพัฒนา ในช่วงการพัฒนามันอาจส่งผลกระทบได้บ้าง