...
ไม่น่าเชื่อครับว่า มีมันสมองถึงระดับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่า "ระบอบทักษิณ" นั้น หน้าตาเป็นอย่างไร
คุณชิดชัยตีหน้าซื่อๆ ตามสไตล์ของท่านที่เราเห็นผ่านทางจอทีวีจนชินตา พลางบ่นกับนักข่าวว่า ยังนั่งงงๆ อยู่ว่าระบอบทักษิณที่คนพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น มันคืออะไรกันแน่
แถมเสนอจะตบรางวัลให้นักข่าวด้วยซ้ำถ้าช่วยทำให้ท่านตาสว่างขึ้นในเรื่องนี้
เอาล่ะ ถ้าท่านอยากรู้จริงๆ ผมจะช่วยวาดภาพให้เห็น เผื่อต้องรับแขกบ้านแขกเมือง จะได้อธิบายได้ถูกว่าอะไรเป็นอะไร
คงไม่ต้องสาธยายอะไรอีกแล้วเกี่ยวกับเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน การเล่นพรรคเล่นพวก การโกงกินบ้านเมือง และการขายสมบัติชาติ เพราะใครที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คงได้ยินเต็มรูหูทั้งสองข้าง
คุณชิดชัยเองก็เถอะ ถ้าไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ก็คงรู้ว่าชาวบ้านเขาก่นด่าระบอบทักษิณกันอย่างไรบ้าง
แต่ถ้าท่านไม่เคยได้ยินจริงๆ เพราะมัวแต่สนใจอย่างอื่นอยู่ ผมจะลองฉายภาพของระบอบทักษิณฉบับย่อให้ท่านได้เห็น
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่ผู้นำประเทศบริหารบ้านเมืองตามอำเภอใจตัวเอง คิดเอง ทำเองทุกอย่าง แม้แต่รองนายกฯ ที่นั่งกันหน้าสลอนในคณะรัฐมนตรี ก็เป็นได้แค่ตัวประกอบ
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่คนที่อยากจะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งบริหารในหน่วยราชการ ไม่ต้องมีความรู้ความสามารถอะไรมากมาย ขอเพียงรู้จักวิธีเลียแข้งเลียขาก็เป็นพอ
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่เมียของนายกรัฐมนตรี สามารถประมูลซื้อที่ดินแข่งกับชาวบ้านได้โดยไม่แคร์ต่อเสียงติฉินนินทาว่าอาศัยอำนาจคนที่นอนเตียงเดียวทุกคืนเอาเปรียบคนอื่น
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่รัฐมนตรีทั้งหลายต้องเสนอหน้าแห่กันไปเป็นคณะเพื่อร่วมงานเปิดตัวบริษัทของลูกชายผู้นำประเทศ แม้จะต้องทิ้งงานหรือหน้าที่ก็ต้องทำ เพราะการให้เจ้าหน้าเห็นหน้าสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่ผู้นำประเทศไม่ต้องฟังเสียงใครทั้งสิ้น นอกจากเมียสุดที่รักเพียงคนเดียว
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่คนในครอบครัวผู้นำประเทศสามารถใช้เครื่องบินของทางราชการ ขนเอาเพื่อนฝูงไปร่วมงานวันเกิดของตัวเองได้โดยไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าน้ำมันแม้แต่บาทเดียว
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่ผู้นำประเทศมีความสามารถพิเศษในการสร้างความแตกแยกให้กับคนในสังคม
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่ผู้นำประเทศอ้างความเป็นประชาธิปไตยเพื่อทำลายประชาธิปไตย
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่นายกฯ ไม่ต้องทำงาน แต่ยังรับเงินเดือน และยังสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและกลไกของทางราชการเดินทางไปไหนมาไหนได้ โดยไม่ต้องมีความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้นต่อปัญหาของบ้านเมือง
ระบอบทักษิณ คือระบอบที่อดีตนายตำรวจที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง สามารถผันตัวเองขึ้นมาเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีได้เพียงเพราะเคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมรุ่นกับผู้นำประเทศ
และระบอบทักษิณ คือระบอบที่ใครก็ได้ก็สามารถทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ตราบใดที่พร้อมทำตัวเป็นหุ้นเชิด
อุตสาห์อธิบายมาตั้งยือยาวขนาดนี้ ถ้าคุณชิดชัยยังไม่เข้าอีกว่าระบอบทักษิณเป็นอย่างไร ผมก็ว่ากลับไปเป็นตำรวจอย่างเดิมจะดีกว่า
...
คัดลอกทั้งหมดมาจาก คอลัมน์
เทพชัย หย่อง ใน
เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 พฤษภาคม 2549
...
แง้มดู เงินเดือน นักการเมือง |
ตำแหน่ง | รายได้ * |
ส.ส.ผู้มีอำนาจออกกฎหมาย แต่งตั้งนายกฯ อนุมัติงบประมาณแผ่นดิน และตรวจสอบการบริหารราชการ ตลอดจนดูแลแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน | มีรายได้จากเงินเดือน เดือนละ 62,000 บาท เงินประจำตำแหน่งอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมแล้ว ส.ส. 1 คน จะมีรายได้ต่อเดือนที่ 104,330 บาท |
ส.ว. ผู้มีบทบาทหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบฝ่ายบริหาร แต่งตั้งและถอดถอนบรรดาบิ๊กๆ ทั้งหลายนั้นจะมีรายได้เท่ากับส.ส. | นั่นคือเงินเดือนรวมเดือนละ 104,330 บาท รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ส.ว. ก็ได้รับเหมือน ส.ส. เช่น ขึ้นเครื่องบินฟรี เป็นต้น |
เงินเดือนของท่านประธานรัฐสภา (ประธานสภาผู้แทนฯ) | ปัจจุบัน อยุ่ที่ 115,920 บาท ต่อเดือน |
ส่วนเงินเดือนของประธานวุฒิสภา | มีรายได้เดือนละ 110,390 บาท |
ในส่วนของฝ่ายบริหาร ไล่ตั้งแต่รัฐมนตรีช่วย | มีรายได้รวมเดือนละ 107,480 บาท |
และถ้ากระโดดขึ้นไปถึงขั้นรัฐมนตรีว่าการ จะว่าการกระทรวงไหนก็ตาม | จะมีรายได้รวมเดือนละ 67,060 บาท รวมกับเงินประจำตำแหน่งอีก 42,500 บาท เบร็จเสร็จคนระดับ รมว. จะมีรายได้ 109,560 บาท |
แต่ว่าคนเป็นนายก มีรายได้อย่างเป็นทางการอย่างถูกกฎหมายนับๆ ดูก็ไม่มากเท่าไหร่ | คือเงินเดือน 69,220 บาท บวกกับเงินประจำตำแหน่งอีก 50,000 บาท รวมคนเป็นนายกฯ จะมีรายได้เดือนละ 119,220 บาท |
อธิบาย * - เงินเดือน หรือ รายได้ ที่ว่า เอาเฉพาะที่เป็นทางการ และถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นนะครับ... และขอย้ำอีกครั้งดังๆ ว่า นี่เป็นรายได้เฉพาะที่โปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมาย คือ ตาม พระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ พ.ศ. 2547 เท่านั้นะครับเจ้า..น..า..ย..ยยย
...
ตารางข้างต้น ดัดแปลงมาจาก
คอลัมน์ชีวิตแบบอ๋อย...อ๋อย ของกฤษณะ ไชยรัตน์ ในเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 พฤษภาคม 2549
...