
เศรษฐกิจพอเพียงบอกว่า ชาวบ้านทำคุณค่าแบบจารีตหล่นหายไปแล้ว ประชาธิปไตยพอเพียงบอกว่า ชาวบ้านไม่ควรมีส่วนร่วมในระบบการเมืองระดับประเทศมากนักหรอก เพราะเวลามีส่วนร่วมก็เอาแต่ขายเสียง ทั้งสองเรื่องนี้วางอยู่บนแนวคิดที่ว่า ชาวบ้านไม่มีปัญญารับมือกับเศรษฐกิจยุคใหม่และระบบการเมืองสมัยใหม่
แอนดรูว์ วอล์กเกอร์
เศรษฐกิจพอเพียง ประชาธิปไตยพอเพียง และรัฐธรรมนูญชาวบ้าน

พิจารณาเฉพาะปรากฎการณ์พื้นผิวที่ปรากฎต่อสาธารณชน จาก 2519 ถึง 2551 พลพรรคขวาไทยได้เคลื่อนย้ายศัตรู จากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ไปเป็นขบวนการสาธารณรัฐ พวกเขามิได้สดุดีระบบทุนนิยมเป็นพระเจ้าแข่งขันกับเศรษฐกิจสังคมนิยมอีกต่อไปแล้ว พวกเขาผลิตวาทกรรม ทุนนิยมสามานย์ ขึ้นมาพร้อมกับเชิดชูเศรษฐกิจพอเพียงให้สูงเด่น ลักษณะหน้าตาของผู้นำขบวนการฝ่ายขวาได้เปลี่ยนจากขุนศึก ไปเป็นนักสื่อสารมวลชนและนักเคลื่อนไหวภาคประชาชนเสียแล้ว
พลพรรคขวาใหม่ยังคงแลเห็นประชาชนส่วนใหญ่ว่าโง่เง่า ไม่พร้อมที่จะเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ถูกนักการเมืองซื้อด้วยเงินบ้างหรือผลประโยชน์เฉพาะหน้าในรูปอื่นบ้าง แม้พวกเขาไม่วางใจในประชาชน แต่ขณะเดียวกันก็กลับเรียกร้องประชาธิปไตยทางตรง หรือกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมือง บ่อยครั้งก็แอบแฝงทำลายหลักประชาธิปไตยด้วยโวหารทางการเมืองที่ก้าวหน้าชวนหลงไหล
บทบรรณาธิการ
ทั้งสองข้อความข้างต้น คัดลอกมาจากบางส่วนของหนังสือ
ฟ้าเดียวกัน:ขวาไทย ฉบับเดือนเมษายน-มิถุนายน 2551