14 ตุลาคม 2559

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต (13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 น.)

วันพฤหัสบดี 13 ตุลาคม 2559 เวลาประมาณ 19.00 น. สำนักพระราชวัง ออกประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต มีรายละเอียดดังนี้

ประกาศ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น

แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี

สำนักพระราชวัง
13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชสมภพ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 - สวรรคต 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ภายหลังประกาศ จากสำนักพระราชวัง นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ถึงประชาชน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นสำคัญว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 ตลอดจนตามพระราชประเพณีในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งสอดคล้องกัน เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินต่อไป อย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร) จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอเชิญชวนให้ประชาชน ร่วมแต่งกายถวายความอาลัย เป็นเวลา 1 ปี และ สถานที่ราชการ ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วน ควรพิจารณางดจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน

ในตอนท้ายแถลงการณ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลใหม่ทรงพระเจริญ

กสท. กำหนด โทรทัศน์-วิทยุ งดรื่นเริง 30 วัน, รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ดึงสัญญาณโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ 30 วัน

คณะกรรมการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติในการประชุมครั้งพิเศษ ที่ 1/2559 (วันพฤหัสบดี 13 ตุลาคม 2559) กำหนดแนวปฏิบัติสำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กรณ๊ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ดังนี้

  1. การเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเสด็จสวรรคต ให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของปฏิบัติของสำนักพระราชวัง โดยเคร่งครัด
  2. การถ่ายทอดภาพหรือเสียงเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคต ให้ดำเนินการเชื่อมโยงสัญญาณโดยตรงกับโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยไม่ให้นำภาพและเสียงไปออกอากาศซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
  3. การเผยแพร่รายการต่างๆ ให้งดรายการที่แสดงถึงความรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน และขอให้คำนึกถึงความเหมาะสม

ด้าน พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่าหลังจากได้หารือกับตัวแทนสื่อต่างๆ ได้ข้อยุติรวมกัน ว่าขอให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ดำเนินการถ่ายทอดสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เป็นเวลา 30 วัน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โดยรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า ให้ทีวีดาวเทียมหรือไม่ดาวเทียมจะต้องเกาะสัญญาณจากสัญญาณแม่ข่าย (โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ) โดยจะมีช่องหลักสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดสด หากไม่ปฏิบัติตาม จะมีคำสั่งลงไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ ห้ามดำเนินการถ่ายทอดสดใดๆ