Pokemon GO เกมที่กำลังได้รับความสนใจ และได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ หลังจากเปิดให้เกมเมอร์ชาวไทย ดาวน์โหลดได้ในวันเสาร์ 6 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา (ก่อนหน้านี้เปิดให้กับ ผู้เล่นใน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศในยุโรป ได้เล่นเกม Pokemon GO ไปก่อน ช่วงเดือนกรกฎาคม)
โดยเกม Pokemon GO เป็นเกมเก็บสะสมตัวละคร โปเกม่อน ที่อ้างอิงกับแผนที่ในโลกจริง โดยผู้เล่นจะต้องออกเดินไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บสะสมตัวละคร และเพิ่มค่าประสบการณ์
หลายคนอาจสงสัยว่า เป้าหมายของเกม Pokemon GO นั้นคืออะไรกันแน่ Location.in.th ขอสรุปแบบคร่าวๆ ของกระบวนการเล่นเกมเอาไว้เป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
ดาวน์โหลดเกม Pokemon GO ได้ในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
1. การเก็บสะสม ตัวละครให้ได้มากที่สุด
ภายในเกม Pokemon GO ผู้เล่นจะต้องเก็บสะสมตัวละครโปเกม่อน โดยในขณะนี้ มีรายงานว่าในประเทศไทย มีจำนวนโปเกม่อนให้จับ ประมาณ 140 ตัว โดยกระบวนการ "จับ" โปเกม่อน ผู้เล่นจะต้อง "เดิน" ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ตัวละคร โปเกม่อน ปรากฎตัวออกมา จากนั้นก็ทำการโยน "โปเกบอล" Poke Ball ลูกบอลสีขาว-แดง ให้โดนตัวละครโปเกม่อนเหล่านั้น
เมื่อผู้เล่นใช้ลูกบอล "โปเกบอล" เพื่อจับตัวละครโปเกม่อน จำนวนลูกบอลก็จะลดลงเรื่อยๆ สำหรับในการเพิ่ม "โปเกบอล" ผู้เล่นจะต้องออกไป "หมุน" เสา หรือ PokeStop เพื่อให้ได้ "โปเกบอล" มาใช้จับเหล่า "โปเกม่อน" ต่อไป
นอกจาก "โปเกบอล" ในการหมุนเสาแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะอาจจะได้รับ "ไข่" Egg สำหรับนำมาฟัก เพื่อที่จะได้ "โปเกม่อน" ตัวพิเศษ ที่นานๆ ที่จะออกมาให้จับ (จำนวนไข่ ที่เก็บในกระเป๋าจะไม่เกิน 9 ใบ) สำหรับในเบื้องต้น สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ในระดับ Level ต่ำ แนะนำให้ฟักไข่ด้วยการเดินในระยะทางสั้นๆ เช่น 2 กิโลเมตร หรือ 5 กิโลเมตร สำหรับ "ไข่" ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเดิน 10 กิโลเมตร แนะนำให้ใช้ต่อเมื่อ ผู้เล่นมีระดับ Level 10 ขึ้นไป
เทคนิคในการจับ "โปเกม่อน" ให้ได้จำนวนมาก
ในช่วงแรกของการเพิ่มระดับ Level คือการจับ "โปเกม่อน" ให้ได้จำนวนมาก เพื่อให้ได้ "ค่าประสบการณ์" EX ซึ่งเกม Pokemon GO นอกจากการ "เดิน" (ทุกระยะ 200-300 เมตร ตัวละคร "โปเกม่อน" จะปรากฎตัว 1 ครั้ง) ยังมีตัวช่วย Lure Module (ตัวดึงดูดโปเกม่อน) โดยผู้เล่นสามารถนำไปวางไว้ที่ "เสา" PokeStop โดยการใช้ Lure Module แต่ละครั้ง จะมีระยะเวลาในการใช้งาน 30 นาที โดยผู้เล่นคนอื่น ก็จะสามารถได้ผลพวงของการวาง Lure Module ของเราด้วย (สังเกตจากสัญลักษณ์ ดอกซากุระร่วงในบริเวณ "เสา" PokeStop นั้นๆ)
เทคนิคในการเข้าไปใน "เสา" PokeStop ที่มี Lure Module เพื่อจับโปเกม่อน Location.in.th ขอแนะนำว่า ให้มองหาบริเวณที่มี Lure Module ใกล้ๆ กับ อย่างน้อย 2-3 เสา (โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณห้างสรรพสินค้า) เมื่อไปถึงบริวณ Lure Module ดังกล่าว ให้ผู้เล่น ใช้ไอเทม Incense (น้ำหอม) เปิดเพิ่มซ้ำเข้าไปอีก -- กล่าวคือ Lure Module ผู้เล่นในบริเวณดังกล่าวได้รับทุกคน ส่วนไอเทม Incense จะเป็นของผู้เล่นแต่ละรายเท่านั้น
2. การอัพเกรด พัฒนาตัวละคร โปเกม่อน ที่เก็บได้
เมื่อผู้เล่น เก็บสะสมตัวละคร "โปเกม่อน" มาระยะหนึ่ง เกม Pokemon GO จะขยับระดับ Level ให้สูงขึ้นตามไปด้วย (คะแนนจาก ค่าประสบการณ์ EX) ทั้งนี้ การอัพเกรดตัวละคร ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มระดับ Level และการอัพเกรด พัฒนาตัวละคร โปเกม่อน ก็จะทำให้เราได้ ตัวละครโปเกม่อน ที่มีความสามารถสูงขึ้น และนำไปต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ใน "ยิม" โดยจะกล่าวในหัวข้อต่อไป
สำหรับการอัพเกรด (Evolve) ตัวละคร โปเกม่อน ในเกม Pokemon GO ผู้เล่นจะต้องใช้จำนวน "แคนดี้" Candy ในการอัพเกรด ซึ่ง แคนดี้ เหล่านี้จะได้มาจากการจับตัวละครโปเกม่อนนั่นเอง
โดยทุกครั้งที่ผู้เล่นสามารถจับตัวละครโปเกม่อน สิ่งที่จะได้คือ
- ตัวละครนั้น
- จำนวน แคนดี้ ประจำตัวโปเกม่อน
- คะแนน Stardust
- ค่าประสบการณ์ EX (เอาไว้อัพเดทระดับ Level)
อธิบายเพิ่มเติม -- จำนวน แคนดี้ ที่เก็บได้ จะสามารถใช้ได้กับ "โปเกม่อน" สายพันธุ์เดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้ แคนดี้ ร่วมกับ โปเกม่อน สายพันธุ์อื่น ทั้งนี้ หากผู้เล่นทำการ "แลก" Transfer ตัวละครโปเกม่อน เหล่านั้น ก็จะได้ แคนดี้ เพิ่มอีก 1 ลูก สำหรับคะแนน Stardust นั้น เอาไว้สำหรับ อัพเดท (Power Up) ค่า CP ของตัวละครโปเกม่อน นั้นๆ (ไม่ใช่การอัพเกรด) เพื่อใช้เตรียมพร้อมก่อนการอัพเกรด (Evolve)
ตัวเลข CP คืออะไร?
อักษรย่อ CP มาจากคำว่า Combat Power เป็นค่าความแข็งแกร่งของโปเกมอนแต่ละตัว ซึ่งในการจับ โปเกม่อน ตัวเดียวกัน อาจจะได้ค่า CP ไม่เท่ากัน และในการจับ โปเกม่อน ในระดับ Level น้อย ก็จะได้ค่า CP น้อย หากผู้เล่นมีระดับ Level สูง ค่า CP ของตัวละครโปเกม่อน ก็จะสูงขึ้นตามนั่นเอง
3. การเข้ายึด "ยิม" สถานที่ต่อสู้ของเหล่าโปเกม่อน
ในการเข้า "ยิม" ผู้เล่นระดับ Level 5 ขึ้นไป จำเป็นต้องเลือกทีมเพื่อเข้าต่อสู้ โดยในเกม Pokemon GO มีทีมสีให้เลือก 3 ทีม ได้แก่ สีแดง Valor, สีน้ำเงิน Mystic และ สีเหลือง Instinct การเลือกทีมสี นี้เลือกได้เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถย้ายทีมได้อีก
สำหรับโบนัสของแต่ละทีมสี ได้แก่ Valer สีแดง - มีโอกาสเจอโปเกม่อน CP สูงมากกว่าทีมอื่น, Mystic สีน้ำเงิน - มีโอกาสจับโปเกม่อน และได้ CP สูงกว่าทีมอื่น ส่วน Instinct สีเหลือง มีโอกาสฟักไข่ แล้วได้โปเกม่อน ที่มี CP สูงกว่าทีมอื่น
สำหรับ เทคนิคการเข้า "ยิม" ในเกม Pokemon GO ทางเว็บ Location.in.th จะเขียนอธิบายเพิ่มเติมในตอนต่อไป