ติดตั้งระบบเว็บไซต์ร้านค้าด้วย WordPress + WooCommerce
- ติดตั้ง WordPress ตามปกติ
- ต้องการเชื่อมต่อ HTTPS ตลอดเวลา
- Setup เซิร์ฟเวอร์ผ่านระบบ Cloudflare เลือกเปิดฟังก์ชั่น Flexible SSL
- ต้องลง plugin ใน WordPress ชื่อ CloudFlare Flexible SSL
- ติดตั้ง WooCommerce จากหน้ารวม plugin ในระบบหลังบ้านของ WordPress ได้เลย
- WooCommerce เวอร์ชั่นล่าสุด มาพร้อมธีม Storefront เทมเพลตสำหรับร้านค้า
- ในการติดตั้ง WooCommerce มีตัวเลือกใช้งาน Jetpack ของ WordPress.com ด้วย
- ในการเพิ่มสินค้า สามารถเพิ่มสินค้าแบบสินค้าเดี่ยว หรือ สินค้าที่มีรุ่นย่อย (สี, ขนาด ฯลฯ)
- มีระบบจัดการสินค้าคงคลัง ใช้งานสะดวก แต่ถ้าสินค้ามีรุ่นย่อยก็ต้องกรอกข้อมูลแยกตามรายการที่สร้างขึ้น
- ระบบ WooCommerce มีตัวเลือกการชำระเงินหลายแบบ เช่น การชำระเงินแบบโอนเงิน (Bank Account Clearing System: BACS) หรือจ่ายเงินผ่าน PayPal
- ในเบื้องต้น WooCommerce เปิดฟังก์ชั่น PayPal Express Checkout มาให้เลย แต่มีปัญหาเรื่องที่อยู่ออกใบเสร็จ (Billing Address) เลยปิดไป เลือกใช้ PayPal แบบปกติ
- ในส่วนของการ "ยืนยันการโอนเงิน" WooCommerce ไม่มีส่วนนี้มาให้ (ไม่รู้ว่าคนออกแบบตั้งใจให้สื่อสารกันทางไหน) เลยต้องไปหา plugin มาเพิ่ม แล้วก็ไปเจอ seed-confirm (เวอร์ชั่นฟรี ใน Github) เจ้าของเดียวกับ Seed Themes
- ในการติดตั้ง seed-confirm ไม่มีตัวเลือกในการติดตั้งแบบอัตโนมัติ ในรายชื่อ plugin หลังบ้านของ WordPress ต้องใช้วิธีดาวน์โหลดจาก Github แล้วมายัดใส่ wp-content/plugins เอาเอง
- แล้วพบปัญหาหลังจากติดตั้ง seed-confirm คือ เวลาเพิ่มสินค้าใหม่ จะใส่ Product image (ซึ่งจริงๆ มันคือ Feature image) ไม่ได้ ต้องปิดการทำงาน Deactivate ตัว plugin เสียก่อน
- การแปลภาษา ส่วนต่างๆ ภายในเว็บไซต์ WordPress สามารถเลือกให้แสดงผลเป็นภาษาไทยได้ทันที แต่ก็ไม่สมบูรณ์ 100% มีหลายจุดยังแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษแทรกให้มองเห็น
- ในส่วนของ WooCommerce ก็มีแปลภาษาไทยอยู่เช่นกัน (แต่ในระดับเดียวกับตัว WordPress ที่มีภาษาอังกฤษยังไม่ได้แปลแทรกอยู่)
- การเพิ่มกล่องเนื้อหาในส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ ระบบ WordPress เรียกว่า Widget (ใน Drupal ที่เรียกว่า Block)
