สิ่งที่ทำเมื่อเปลี่ยนมือถือ: ลงทะเบียน Authenticator ใหม่, ล็อกอินธนาคารทั้งหมด

เปลี่ยนมือถือจาก Xiaomi Mi A1 มาใช้ Redmi Note 7 สิ่งที่ต้องทำก่อนอย่างอื่น นอกจากการลงแอพที่ใช้ประจำทั้งหมดแล้ว ยังต้องจัดการกับระบบ Two-Factor Authentication ที่ใช้อยู่ทั้งหมดทุกเว็บ รวมถึง ลงทะเบียนเข้าใช้งาน Internet Banking แอพธนาคารต่างๆ ตั้งแต่ กรอก ชื่อผู้ใช้-รหัสผ่าน ไปจนถึง ขอหมายเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ ที่ลงทะเบียนเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม แอพ SCB Easy ยังคงต้องไปเปิดใช้งานแอพที่สาขาธนาคารเท่านั้น

การล็อกอินแอพธนาคาร เมื่อเปลี่ยนมือถือ

ในการเปลี่ยนมือถือ ธนาคารแต่ละแห่งจะมีวิธียืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีในรูปแบบที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีบางธนาคารที่ต้องการให้เจ้าของบัญชีไปแสดงตัวที่สาขาธนาคาร

  • K PLUS ธนาคารกสิกรไทย - จำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมือถือ เพื่อตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ และ กรอกข้อมูลจำเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เลขบัญชี และ หมายเลขบัตรประชาชน
  • Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย - ในการเข้าใช้งานแอพ NEXT เจ้าของบัญชี จะต้องล็อกอินด้วย ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ที่เคยลงทะเบียนไว้กับธนาคาร
  • UOB Thailand ธนาคารยูโอบี - ในการเข้าใช้แอพ UOB MIGHTY เจ้าของบัญชี จะต้องล็อกอินด้วย ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ที่เคยลงทะเบียนไว้กับธนาคาร
  • KTC Mobile บริษัทบัตรกรุงไทย - การยืนยันความเป็นเจ้าของ จะต้องใส่ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งใส่รหัส OTP ที่ได้จาการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ ที่ลงทะเบียนไว้
  • SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ - แม้ชื่อแอพจะมีคำว่า Easy ที่แปลว่า "ง่าย" แต่ในการเปิดใช้งานไม่ง่ายเหมือนชื่อแต่อย่างใด ในกรณีนี้ เจ้าของบัญชี ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตของธนาคาร จำเป็นต้องไปแสดงตัวที่สาขาธนาคารเท่านั้น

ลงทะเบียน Two-Factor Authentication ใหม่ทุกเว็บ

ในการลงทะเบียน Two-Factor Authentication ใช้แอพ Google Authenticator ในการสแกน QR Code จากเว็บต่างๆ ก็ต้องค่อยๆ ล็อกอินเข้าไปลบ และเพิ่ม Authenticator จากมือถือเครื่องใหม่เข้าไปแทน