8 ตุลาคม 2561

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ย้ำ ใช้ "ประชาธิปไตย" แก้ปัญหา "คอร์รัปชัน"

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ "อัด ประชาธิปไตย แก้ คอร์รัปชัน" ดังนี้

ทุกครั้งที่มีการเสนอแนวคิด "การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น" มักจะมีวาทกรรมทางการเมืองว่า "เมื่อมีอำนาจมากขึ้น การทุจริตคอร์รัปชันจะเพิ่มขึ้น และกระจายลงไปในทุกระดับ"

โดยแนวคิดของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยืนยันว่า "เรื่องนี้ไม่ควรกลัว เพราะในรายงานประจำปีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ปีล่าสุด ในปี 2557 พบว่าการทุจริตขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นมีมูลค่าประมาณ 30-40 ล้านบาทซึ่งน้อยมาก ขณะที่ส่วนกลางมีจำนวนมูลค่าการทุจริตที่สูงกว่ามาก"

นอกจากนี้หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังได้ชี้แจง 3 แนวคิดของพรรคฯ ที่จะใช้แก้ไขปัญหาทุจริตและคอร์รัปชัน ซึ่งเปิดเผยกับทีมเศรษฐกิจไทยรัฐว่า

แนวคิดแรก "รัฐเปิดเผย" การเปิดเผยข้อมูล เป็นเครื่องมือที่ดีให้ประชาชนตรวจสอบการทำงาน สัญญาสัมปทาน และการทำสัญญาต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างโปร่งใส แต่ในขณะนี้ ข้อมูลภาครัฐที่เปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบมีเพียง 1,000 รายการเท่านั้น ขณะที่บางประเทศมีการเปิดเผยมากถึง 200,000 รายการ

แนวทางที่สอง "ปรับปรุงกฎหมายในการประมูลงานภาครัฐ" ในลักษณะ Leniency ในลักษณะการลดโทษ หรือไม่ทำโทษ คนที่กลับใจมาสารภาพผิด

ยกตัวอย่าง กรณีมีผู้ร่วมประมูล 3 ราย แล้วมีการฮั้วประมูลกัน และหากมีรายใดรายหนึ่งบอกว่า มีการฮั้วเกิดขึ้น ก็ยังจะได้รับโทษตามกฎหมาย แต่การปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ หาก 1 ใน 3 เกิดกลับใจ หรือแตกคอ และมาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่ามีการฮั้วกัน เจ้าหน้าที่ภาครัฐมีสิทธิที่จะเจรจาลดหย่อนโทษ หรือไม่เอาโทษคนที่สารภาพ

"กฎหมายนี้จะทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ เป็น Game Theory ที่ต้องเดาว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเล่นเกมแบบไหน ซึ่งประสบความสำเร็จมากในต่างประเทศ"

ส่วนแนวทางที่สาม "การลงทะเบียนกลุ่มผลประโยชน์" กล่าวคือ คนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการที่จะพบปะกับผู้มีอำนาจเพื่อผลักดันนโยบายสาธารณะในการบริหารประเทศ ซึ่งอาจจะเป็น "ลอบบี้ยิสต์" กลุ่มนักธุรกิจ หรือเอ็นจีโอ

ธนาธร กล่าวว่า "ลอบบี้ยิสต์" ไม่ได้น่ารังเกียจ เพราะเราอาจร่วมกันผลักดันรัฐบาลเพื่อให้เกิดนโยบายลดขยะพลาสติก หรือขอให้ไม่สร้างรถไฟความเร็วสูงแต่ให้สร้างไฮเปอร์ลูปแทน แต่ที่ชัดเจนการผลักดันนโยบายต้องทำอย่างโปร่งใส ภาครัฐจะคุยกับ "คนเหล่านี้" ได้ จะต้องขึ้นทะเบียนและคุยกันอย่างเปิดเผย ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่อาจมีโทษสูงถึงติดคุก

"อย่าคิดว่า การรัฐประหาร จะหยุดการคอร์รัปชันได้ หรือการแก้คอร์รัปชันต้องดึง ประชาธิปไตย ออกไป เพราะในประเทศที่มีรัฐประหารทุก 6 ปีอย่างบ้านเรา ถ้าเป็นอย่างนั้น ประเทศไทยสะอาดหมดจดไปนานแล้ว แต่การแก้คอร์รัปชัน ต้องอัดประชาธิไตย เข้าไปเพิ่ม ให้สิทธิเสรีภาพและการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพราะอำนาจที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาไม่ได้มายาวนาน" ธนาธร กล่าวในตอนท้าย