ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ "อัด ประชาธิปไตย แก้ คอร์รัปชัน" ดังนี้
ทุกครั้งที่มีการเสนอแนวคิด "การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น" มักจะมีวาทกรรมทางการเมืองว่า "เมื่อมีอำนาจมากขึ้น การทุจริตคอร์รัปชันจะเพิ่มขึ้น และกระจายลงไปในทุกระดับ"
โดยแนวคิดของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยืนยันว่า "เรื่องนี้ไม่ควรกลัว เพราะในรายงานประจำปีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ปีล่าสุด ในปี 2557 พบว่าการทุจริตขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นมีมูลค่าประมาณ 30-40 ล้านบาทซึ่งน้อยมาก ขณะที่ส่วนกลางมีจำนวนมูลค่าการทุจริตที่สูงกว่ามาก"
นอกจากนี้หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังได้ชี้แจง 3 แนวคิดของพรรคฯ ที่จะใช้แก้ไขปัญหาทุจริตและคอร์รัปชัน ซึ่งเปิดเผยกับทีมเศรษฐกิจไทยรัฐว่า
แนวคิดแรก "รัฐเปิดเผย" การเปิดเผยข้อมูล เป็นเครื่องมือที่ดีให้ประชาชนตรวจสอบการทำงาน สัญญาสัมปทาน และการทำสัญญาต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างโปร่งใส แต่ในขณะนี้ ข้อมูลภาครัฐที่เปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบมีเพียง 1,000 รายการเท่านั้น ขณะที่บางประเทศมีการเปิดเผยมากถึง 200,000 รายการ
แนวทางที่สอง "ปรับปรุงกฎหมายในการประมูลงานภาครัฐ" ในลักษณะ Leniency ในลักษณะการลดโทษ หรือไม่ทำโทษ คนที่กลับใจมาสารภาพผิด
ยกตัวอย่าง กรณีมีผู้ร่วมประมูล 3 ราย แล้วมีการฮั้วประมูลกัน และหากมีรายใดรายหนึ่งบอกว่า มีการฮั้วเกิดขึ้น ก็ยังจะได้รับโทษตามกฎหมาย แต่การปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ หาก 1 ใน 3 เกิดกลับใจ หรือแตกคอ และมาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่ามีการฮั้วกัน เจ้าหน้าที่ภาครัฐมีสิทธิที่จะเจรจาลดหย่อนโทษ หรือไม่เอาโทษคนที่สารภาพ
"กฎหมายนี้จะทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ เป็น Game Theory ที่ต้องเดาว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเล่นเกมแบบไหน ซึ่งประสบความสำเร็จมากในต่างประเทศ"
ส่วนแนวทางที่สาม "การลงทะเบียนกลุ่มผลประโยชน์" กล่าวคือ คนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการที่จะพบปะกับผู้มีอำนาจเพื่อผลักดันนโยบายสาธารณะในการบริหารประเทศ ซึ่งอาจจะเป็น "ลอบบี้ยิสต์" กลุ่มนักธุรกิจ หรือเอ็นจีโอ
ธนาธร กล่าวว่า "ลอบบี้ยิสต์" ไม่ได้น่ารังเกียจ เพราะเราอาจร่วมกันผลักดันรัฐบาลเพื่อให้เกิดนโยบายลดขยะพลาสติก หรือขอให้ไม่สร้างรถไฟความเร็วสูงแต่ให้สร้างไฮเปอร์ลูปแทน แต่ที่ชัดเจนการผลักดันนโยบายต้องทำอย่างโปร่งใส ภาครัฐจะคุยกับ "คนเหล่านี้" ได้ จะต้องขึ้นทะเบียนและคุยกันอย่างเปิดเผย ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่อาจมีโทษสูงถึงติดคุก
"อย่าคิดว่า การรัฐประหาร จะหยุดการคอร์รัปชันได้ หรือการแก้คอร์รัปชันต้องดึง ประชาธิปไตย ออกไป เพราะในประเทศที่มีรัฐประหารทุก 6 ปีอย่างบ้านเรา ถ้าเป็นอย่างนั้น ประเทศไทยสะอาดหมดจดไปนานแล้ว แต่การแก้คอร์รัปชัน ต้องอัดประชาธิไตย เข้าไปเพิ่ม ให้สิทธิเสรีภาพและการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพราะอำนาจที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาไม่ได้มายาวนาน" ธนาธร กล่าวในตอนท้าย